เมื่อไม่นานมานี้ บนโลกออนไลน์ ได้มีทีมข่าวหนึ่งได้ไล่เรียงวันตามปฏิทินของเดือนมิถุนายนให้ผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคuจน วันไหนเงินเข้า ได้รับเงินเพื่อใช้จ่ายค่าอะไร และจะได้รับเงินเป็นจำนวนเท่าไร เช็กได้ที่นี่
เริ่มแจกเงินวันที่ 1 มิถุนายน 2563
1.ได้เท่าไร:วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน(ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้:ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
2.ได้เท่าไร:ค่าเดินทาง โดยรถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์ รถไฟฟ้า(รฟม.และ BTS)500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
ใครได้:ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
3.ได้เท่าไร:วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาท ต่อ 3 เดือน(3 เดือนใช้ได้ 1 ครั้ง)โดยนำบัตรไปซื้อแก๊สกับร้านที่ร่วมรายการ(ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
เริ่มแจกเงินวันที่ 15 มิถุนายน 2563
4.ได้เท่าไร:ผู้สูงอายุที่มีบัตรคuจน ได้รับเงิน 50-100 บาท ตามเกณฑ์รายได้
ใครได้:รายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท
รายได้ 30,001-100,000 บาท ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท
5.ได้เท่าไร:คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 5%
ใครได้:ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน

*ยกตัวอย่างเช่น*
ใช้จ่ายผ่านบัตรคนuจน 100 บาท ได้คืน VAT 5% เงินจะเข้าบัตรคuจนเดือนถัดไป 5 บาท
ใช้จ่ายผ่านบัตรคuจน 1,000 บาท ได้คืน VAT 5% เข้าบัตรคuจนเดือนถัดไป 50 บาท
ใช้จ่ายผ่านบัตรคuจน 10,000 บาท ได้คืน VAT 5% เข้าบัตรคuจนเดือนถัดไป 500 บาท
หมายเหตุ:โอนเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์(E-Money)โดยสามารถนำบัตรฯ ไปกดเป็นเงินสดออกมาได้ หรือใช้รูดซื้อสินค้า-บริการกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ
เริ่มแจกเงินวันที่ 18 มิถุนายน 2563
6. ได้เท่าไร:ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ใครได้:ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย(ตั้งแต่เดือน ต.ค.2562-ก.ย. 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)
7.ได้เท่าไร:ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ใครได้:ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย(ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2562-ก.ย. 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)
ทั้งนี้ แม้จะมีกำหนดวันที่เงินเข้าบัญชีแน่นอน แต่เนื่องจากผู้มีสิทธิ์มีจำนวนมาก ทำให้ต้องทยอยจ่ายเงินเข้าบัตร ผู้ถือบัตรคuจนบางรายจึงอาจจะได้รับเงินหลังจากวันที่ระบุไว้ ทั้งนี้สามารถตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคมได้โดย เพียงกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน แล้วกดปุ่ม “ตรวจสอบ” จะสามารถทราบผลได้ทันที
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จำรหัส ATM(PIN 6 หลัก)ของตนเองไม่ได้ สามารถกำหนดรหัสใหม่เพิ่มเติมด้วยตนเองที่เครื่อง ATM ของธนาคารกรุงไทยทุกแห่ง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ธนาคารกรุงไทยกำหนด ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้อำนวยความสะดวกโดยแจ้งรายละเอียดไว้ด้านข้างของเครื่อง ATM ทุกเครื่องเรียบร้อยแล้ว
สำหรับกรณีที่เครื่อง ATM แจ้งว่าไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ในฐานข้อมูล รูปแบบหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง หรือหมายเลขโทรศัพท์ซ้ำกันในระบบ จะไม่สามารถดำเนินการผ่านเครื่อง ATM ได้
ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทย เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ โดยเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินการดังกล่าว
แหล่งที่มา:ไทยรัฐ