สาระน่ารู้

สำหรับคุณสาวๆเคยได้ยินกันหรือไม่ว่า น้ำมะพร้าวทำให้คุณผู้หญิงนั้นดูเปล่งปลั่งและผิวมีน้ำมีนวล แถมยังช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย ปรับสมดุลให้กับคุณผู้หญิงได้อีกด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแต่คุณจะต้องรู้ว่าควรดื่มในปริมาณเท่าไร 1 น้ำมะพร้าว กับ ประจำเดือน มีข้อมูลในเรื่องหนึ่ง คณะเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยมหิดลได้ระบุเอาไว้ว่า หากดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนนั้น จะทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไป จะมาช้ากว่าปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้หญิงบางคนเท่านั้น ใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างในเรื่องของความเครียด และอื่นๆอีกมากมายซึ่งไม่เท่ากันแต่ละคน ดังนั้นแล้วหากสาวๆคนไหนรู้สึกว่าประจำเดือนของตัวเองมาไม่ปกติ ให้สังเกตว่าตัวเองได้ดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงนั้นไปหรือไม่ อีกทั้งน้ำมะพร้าวยังช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากมีประจำเดือนได้อีกด้วย และยังทำให้ร่างกายสดใสแข็งแรงสุขภาพดี 2 ดื่มน้ำมะพร้าวก่อนนอน แท้จริงแล้วยังไม่มีการทำผลงานวิจัยหรืองานวิจัยที่แน่ชัดในเรื่องนี้ แต่มีหลายคนได้ลองกับตัวเอง เขาแนะนำว่าให้ดื่มน้ำมะพร้าวก่อนนอนจะช่วยฟื้นฟูและบำรุงร่างกายในขณะที่เรารับได้ ทำให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอความเเก่ บำรุงผิวพรรณให้มีความสุขสดใส เมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกว่าผิวพรรณดีขึ้นมีความแตกต่างสดชื่น 3 ดื่มเมื่อท้องเสีย อ่อนเพลีย หากวันไหนคุณรู้สึกว่ามีอาการท้องเสียจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ จนรู้สึกว่าอ่อนเพลียและไม่มีแรง ในตอนนี้แนะนำให้คุณหาน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวมาทาน สามารถใช้ทดแทนในเรื่องของเกลือแร่ได้ เพื่อเป็นการลดการขาดน้ำนั่นเอง ช่วยให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว เครื่องรางเปลี่ยนชีวิต พกไว้ช่วยได้ รวยวันรวยคืน! อ่านตรงนี้ 4 ดื่มชะลอความเเก่ สำหรับวัยรุ่นหรือว่าวัยทำงาน ที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ …

หอยแมลงภู่อบกระเทียมชีส เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมหลักที่ใครหลายคนที่ได้ยินแล้วจะต้องร้องว้าว กับส่วนผสมที่มีชื่อว่า ชีส นั่นเอง เพราะในหลากหลายเมนูอาหารที่มีชีสลงไปด้วยนั้นมักจะให้รสชาติที่น่าสนใจ แปลก และน่าค้นหาเป็นอย่างมากทีเดียวว่าเมนูต่อไปที่เราจะใส่ชีสนั้นจะเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งในวันนี้ทางเราจะมาขอนำเสนอเมนู หอยแมลงภู่อบกระเทียมชีส ของโปรดของใครหลายคนกันเลยทีเดียวเชียว หอยแมลงภู่อบกระเทียมชีส – ขั้นตอนการจัดเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนแรกสุดของการทำนั้น เราจะต้องทำการจัดเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมเสียก่อน ซึ่งเราจะต้องใช้ หอมแมลงภู่ 500 ก. โดยประมาณ พามีซานชีส เชดดาร์ชีส และมอสซาเรลลาชีส ตามที่ต้องการ แหม ถูกใจกันอย่างแน่นอนเลยทีเดียว นานๆ ทีไม่เป็นอะไรหรอก และกระเทียม 3 กลีบ พาสลีย์ 1 และเนยจำนวนหนึ่ง เท่านี้วัตถุดิบทั้งหมดก็พร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไปกันแล้ว หอยแมลงภู่อบกระเทียมชีส – ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนแรกสุดนั้นเราจะต้องทำการนำหอยแมลงภู่ลงลวกให้ออกสุกในหม้อเสียก่อน จากนั้นให้เราหันไปสับกระเทียม และชีสทั้งหลายให้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ และลงไปคลุกเคล้าเข้ากันกับเนย และตามด้วยหอยแมลงภู่ จากนั้นให้นำเข้าอบที่เตาอบในอุณภูมิ 180 อศ. ราว 20 นาทีโดยประมาณ …

ขิง ที่เรานำไปหมักน้ำส้มสายชูมีประโยชน์จริงหรือไม่ ความจริงแล้วมีหลายคนได้ออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขิงสามารถรักษาได้หลายโ ร คหลายชนิดมาอย่างยาวนานแล้ว ดังนั้นอาหารทุกมื้อไม่ควรที่จะละเลยในการเลือกรับประทานขิง คนสมัยก่อนมักจะพูดว่ากินขิงวันละ 3 ชิ้นโดยที่เราไม่ต้องกินยาใดๆเลย กินในช่วงหน้าหนาวจะทำให้ร่างกายของคุณอบอุ่นและไม่เป็นคนกลัวหนาว หน้าร้อน กินหัวไชเท้าจะได้ไม่ต้องไปหาหมอกินยาบ่อยๆ มีขิงในบ้านรับรองเลยว่าจะหายจากปัญหาเกี่ยวกับหวัดแน่ ทางด้านตำราแพทย์โบราณได้บอกว่า ขิงถูกจัดเป็นยาสมุนไพรที่ใช้บ่อยมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นอาหารและเครื่องปรุงรสที่จะต้องมีติดไว้ประจำครัวเรือนของคนอื่นอีกด้วย จากการศึกษาพบว่า ขิงมีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย คือ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินเอและอีกมากมาย ขิงมีฤทธิ์อุ่นๆ ช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น ขิงมีสารฟี น อ ล จะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น ทำให้เวลากินอาหารไม่อึดอัดท้อง หรือมีอาการท้องอืด ในขิงมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและช่วยป้องกันการเป็นโรคหัวใจขาดโลหิตและโรคหลอดโลหิตแดงแข็งตัว นอกจากนี้ ขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและสามารถช่วยจัดการกับน้ำหนักได้ เพราะขิงสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และไปซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกสารอนุมูลอิสระจัดการ อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายดึงเอาไขมันที่ถูกสะสมไว้มาผลาญเป็นพลังงาน และถูกร่างกายขับออกมาในรูปของปัสสาวะ …

อกไก่คั่วพริกไทย อีกหนึ่งเมนูสำหรับคนที่กำลังออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือกระทั่งคนที่กำลังมองหาเมนูสำหรับการลดน้ำหนัก ลดหน้าท้องกันอยู่ละก็บอกได้เลยว่าคุณมาถูกเมนูกันแล้ว เพราะด้วยคุณค่าทางโภชนาการของอาหารจานนี้ที่อุดมไปด้วยแหล่งของโปรตีน และรสชาติที่น่าสนใจเบื่อได้ยากแบบนี้จะต้องทำให้ชีวิตในการออกกำลังกายเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน อกไก่คั่วพริกไทย – ขั้นตอนแรกของการทำ ซึ่งในวันนี้ทางเรามาพร้อมกันกับขั้นตอนการทำที่สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ มาฝากทุกๆ คนกัน และอย่างแรกเราจะต้องจัดเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมเสียก่อน ซึ่งเราจะต้องใช้ อกไก่ประมาณ 300 ก. พริกไทยป่นครึ่งช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนครึ่ง น้ำตาลครึ่งช้อนชา กระเทียมประมาณ 1 ชช. และน้ำมันประมาณ 2 ชต. แต่ถ้าหากว่ามีน้ำมันชนิดสเปรย์ฉีดละก็แนะนำให้ใช้ตัวนั้น เพราะจะทำให้ใช้ปริมาณน้ำมันที่น้อยลงมากยิ่งขึ้น และเท่านี้วัตถุดิบทั้งหมดก็พร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไปกันแล้ว อกไก่คั่วพริกไทย – ช่วงท้ายของการทำ ขั้นตอนแรกสุดของการทำนั้น เราจะต้องทำการทำความสะอาดวัตถุดิบทั้งหมดให้พร้อมเอาไว้ ตั้งกระทะด้วยไฟกลางและเทน้ำมันลงไปให้เดือด จากนั้นให้เรานำไก่ลงผัดจนออกสุก ตามด้วยพริกไทยเล็กน้อย และซอสปรุงรส น้ำตาล จากนั้นให้เริ่มต้นผัดให้เข้ากันอีกครั้ง และโรยด้วยผักชีถ้ามี จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยกระเทียมผัดให้ออกกลิ่น เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ รับประทานกันได้เลย

ใช้น้ำแข็งเพียงก้อนเดียวเท่านั้นความรู้สึกที่อยู่ตรงท้ายทอยของคุณนั้นจะเชื่อมต่อกับส่วนของกะโหลกศีรษะและส่วนบนสุดของลำคอคุณ จุดนี้จะมีชื่อเรียกว่า‘เฟิงฟู่’(Feng Fu)เป็นจุดที่คุณจะต้องทำการวางก้อนน้ำแข็งลงไป ถ้าคุณวางก้อนน้ำแข็งลงบนจุดนั้นทุกวันแล้วล่ะก็จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณนั้นรู้สึกมีชีวิตชีวาและสุขภาพดี ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการวางก้อนน้ำแข็งลงบนท้ายทอยของคุณ 1.ช่วยในการรักษาระบบย่อยอาหารของคุณ 2.ช่วยควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของคุณ 3.ช่วยในเรื่องการนอนหลับของคุณ 4.ช่วยในเรื่องของอาการปວดประจำเดือน 5.ช่วยเบาเทาอาการปວดหัวปວดฟันและปວดเมื่อยตามร่างกาย 6.ช่วยในเรื่องของสุขภาพจิต 7.ช่วยในการรักษาปัญหาที่จะเกิດขึ้นกับต่อมไทรอยด์ 8.ช่วยบรรเทาอาการหวัด 9.ช่วยในการรักษาโรคทางเดินหายใจและโรคหลอดเลือดหัวใจวิธีการวางน้ำแข็งลงบนจุดเฟิงฟู่ของคุณ 1.นอนคว่ำหน้าจากนั้นวางก้อนน้ำแข็งไว้บนจุดที่ท้ายทอย ถือไว้เป็นเวลา20นาที 2.หากไม่สะดวกนอนคว่ำสามารถใช้ผ้าพันเอาไว้แทนได้ค่ะโดยทิ้งไว้นาน 20 นาทีเช่นกัน 3.ในช่วง 30-40 วินาทีแรกอาจจะรู้สึกเย็นแล้วก็จะค่อยอุ่นขึ้นให้ทำต่อเนื่องไปจนครบเวลานะคะ ทั้ง 3 ขั้นตอนง่ายนี้สามารถทำได้เป็นประจำทุกวันในตอนเช้าก่อนทานอาหาร และทำตอนก่อนนอนตามตารางดังนี้ค่ะ จันทร์ทำตอนเช้า-เย็นอังคารทำตอนเช้าพุธทำตอนเช้าพฤหัสทำตอนเช้า ศุกร์ทำตอนเช้า-เย็นเสาร์ทำตอนเช้าอาทิตย์ทำตอนเช้าในช่วง 1-2 วันแรกที่ทำนั้นเราจะรู้สึกสบายผ่อนคลายขึ้นจนรู้สึกได้เนื่องจากมีการหลั่งเอนดอร์ฟีนหรือสารที่ทำให้รู้สึกมีความสุขเข้าสู่กระแสเลือดนั่นเองค่ะ

สำหรับใครในช่วงนี้กำลังคิดและมองหาโอกาสในการย้ายงานหรือเปลี่ยนงานประจำ กลับไปที่บ้านแล้วทำการเกษตรแต่คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าหากคุณเลือกที่จะทำการเกษตรแล้วนั้นไม่ใช่แค่ว่าคุณแค่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เท่านั้นแต่คุณยังจะต้องมีความรู้ในเรื่องของการทำมาหากินอื่นๆควบคู่กันอีกด้วยถ้าหากคุณคิดดีแล้วว่าคุณกำลังจะย้ายงานหรือเปลี่ยนอาชีพเป็นเกษตรกรลองคิดใหม่ด้วยเหตุผลที่เรานำมาฝากในวันนี้ 1 การที่เราเป็นคนที่มีงานประจำทำอยู่แล้ว นั่นเท่ากับว่าเรามีรายได้ที่แน่นอนเลยทีเดียว ยกเว้นแต่ว่าโดนหยุดงาน เลิกจ้างในขณะนั้น แต่การทำการเกษตรนั้นไม่ใช่อย่างที่คุณคิด คุณจะต้องรอการเก็บเกี่ยวผลผลิต บางสิ่งบางอย่างอาจจะต้องรอถึง 2-3 เดือน ถึงจะมีรายได้เข้ามาในช่วงเวลานั้น และในขณะเดียวกัน คุณจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายกินประจำทุกวันทุกเดือน แล้วคุณจะเอาเงินส่วนนี้จากไหน ถ้าคุณมีเงินสำรองก็ว่าไปอีกเรื่องนึง 2 หากคุณมีเงินสำรองพอใช้ ที่จะไปทำการเกษตร คุณจะต้องมีเงินลงทุน ถ้าหากคุณไม่มีเงินตรงนี้แล้วคุณไปเช่าที่ดินเขา คุณก็จะต้องเสียค่าเช่า เสียค่าแรงงานคนเป็นประจำทุกวัน เสียค่าเมล็ดพันธุ์ เสียแค่ค่าแรงงาน ค่าอุปกรณ์การเกษตรต่างๆไม่ใช่ราคาถูกเลยนะ ถ้าไม่มีทุนแล้วออกจากงานมาทำการเกษตรโดยตรง หลายคนจะต้องกู้หนี้ยืมสิน สุดท้ายก็วนเข้าลูปเดิม แล้วก็ยืมเงินชาวบ้านคนนู้นคนนี้ เอาไปโปะคนนู้นคนนี้ 3 ทำการเกษตรคุณจะต้องทำได้ทุกเวลา งานประจำนั้นคุณแค่ทำงาน 6-8 ชั่วโมงคุณก็หยุดได้แล้ว แต่สำหรับในเรื่องของการทำการเกษตร คุณจะต้องมีเวลามากกว่านี้ มีความขยันรู้จักการรอคอย และบอกเลยนะว่าการเกษตรไม่มีวันหยุด ถ้าหากวันใดวันหนึ่งคุณหยุดขึ้นมา แล้วจัดเลี้ยงที่คุณเลี้ยงเอาไว้จะเอาอะไรกิน แล้ว พืชผักสวนครัวต่างๆที่รอคุณรดน้ำจะต้องทำอย่างไร 4 คุณจะต้องเสี่ยงและประสบกับปัญหาทุกสถานการณ์ คุณไม่สามารถหยุดยั้งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าแรก หน้าฝน …

สำหรับใครที่มือดำ เท้าดำอันเนื่องมาจากแดดไม่ได้ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านหรือว่าลืมทาวันนี้เรามีสูตรมาบำรุง ให้เพื่อนๆได้ลองเอาไปทำกันดูค่ะเท้าดำเกิดจากในบางครั้งคุณใส่รองเท้าแตะเดินออกจากบ้านพอกลับมาเท้าของคุณก็เป็นรอยและแน่นอนถ้าคุณปล่อยเอาไว้แบบนี้รอยคล้ำนั้นก็จะไม่จางลงและยิ่งทำให้บริเวณที่เป็นรอยดำดำเพิ่มขึ้นไปอีก เท้าของคุณก็จะดำ 1.ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวเท้าให้ขาวขึ้นใช้ไข่ขาว:สำหรับคุณสาวๆทราบหรือไม่ว่าใครขาวนั้นมีลูทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนประกอบทำให้ผิวขาวของคุณนั้นสามารถกลับมาขาวได้อีกครั้ง โดยใช้ไข่ขาวตีจนเป็นฟองนุ่มฟูแล้วก็นำมาพอกให้ทั่วเท้าของเราในกะละมังแล้วก็แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยล้างออกก่อนที่จะล้างออกควรขัดเท้าโดยใช้ใยบวบขัดไปเรื่อยๆทำแบบนี้วันเว้นวันภายใน 1 อาทิตย์ผิวเท้าและมือของคุณก็จะเริ่มขาวขึ้นอีกทั้งยังได้ความนุ่มนวลกลับมาด้วยยิ่งใครส้นเท้าแตกยิ่งช่วยได้มากเลย 2.มะนาว:ให้คุณลองใช้มะนาวแบ่งครึ่งและจากนั้นโรยด้วยน้ำตาลขัดบริเวณข้อศอกและบริเวณข้อเท้าของคุณเพื่อเป็นการจัดการกับผิวที่เสียให้หลุดออกไปโดยใช้เวลาขับประมาณ 5 ถึง 10 นาที ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เมื่อทำสูตรนี้แล้วไม่ควรที่จะโดนแดดหรือตากแดดทันทีควรที่จะเช็ดให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิว 3.โยเกิร์ต:แนะนำว่าให้นำโยเกิร์ตมาทาและนวดบริเวณที่มีสีผิวคล้ำ โดยเฉพาะข้อศอกเข่าและตาตุ่มนวดนวดๆขัดๆไปเรื่อยๆทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วค่อยล้างน้ำออกด้วยน้ำเปล่าทำแบบนี้ 2 ครั้งต่อวันแค่ 3 วันสีผิวของคุณก็เปลี่ยนไปแล้ว 4.ข้าวสาร:นี่คืออีกหนึ่งวิธีที่สามารถใช้ได้และเห็นผลไว ให้เรานำข้าวสาร 1 ถ้วยนำมาบดให้เป็นผง แล้วจากนั้นก็ผสมกับนมสด นมจืดคนให้เข้ากันแล้วก็ใส่ผงขมิ้นตามลงไปด้วยคลุกให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นก็ทาบนผิวหนังของคุณ ทิ้งไว้ 30 นาที ระหว่างที่ทิ้งไว้ 30 นาที ก็ให้คุณใช้ใยบวบขัดไปเรื่อยๆด้วยก็ได้ยิ่งจะทำให้ผิวหนังของคุณนั้นเรียบเนียนและมีความนุ่ม น้ำซาวข้าวที่เหลือก็นำมาแช่มือและเท้าของคุณเป็นเวลา 10 นาที หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดน้ำซาวข้าวจะช่วยจัดการกับสิ่งที่ไม่สะอาดที่เกาะอยู่บนซอกเล็กซอกเท้าเราได้ 5.มะเขือเทศ:ให้เราแบ่งมะเขือเทศออกเป็นครึ่งนึงแล้วก็นำไปถูนิ้วมือนิ้วเท้าตามซอกมือซอกเท้าถูเป็นเวลา 3 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดสูตรนี้จะช่วยบำรุงเล็บเท้าเล็บมือสามารถทำเป็นประจำก่อนอาบน้ำได้ 6.เปลือกส้ม:รู้หรือไม่ว่าเปลือกส้มที่เราจะนำไปทิ้งมีประโยชน์มากๆนำไปผสมกับโยเกิร์ตและนมคนให้เข้ากันหลังจากนั้นก็นำเปลือกส้มมาถูบริเวณส้นเท้าข้างเท้าตาตุ่มดำทิ้งไว้ 20 …

รถยนต์เป็นพาหนะหนึ่ งที่เรียกได้ว่าเป็นความจำเป็นที่หลายๆคนจะต้องมี แต่การดูแลรถยนต์นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่คนมีรถควรจะใส่ใจ เพราะรถยนต์เป็นสิ่งที่มีมูลค่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจะเป็นในเรื่องของแอร์ไม่เย็นเ ครื่องปรับอากาศมีกลิ่น เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี จะเข้าศูนย์ซ่อมแอร์ก็ต้องเสียเงินหลายพันบาท ซึ่งในวันนี้เราได้มีเทคนิคง่ายๆ 5 ข้อ ที่จะทำให้รถยนต์ของคุณนั้นเย็นฉ่ำ ไร้กลิ่นอับ โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินให้ช่างซ่อม 1.หลังจากที่เราทำการสตาร์ทรถยนต์และวอร์มเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่พร้อมใช้งาน ให้เราอย่าเพิ่งรีบปรับอุณหภูมิแต่ ให้ทำการเปิดแอร์โดยให้ใช้พัดลมในรอบสูงก่อน ทำแบบนี้เพื่อเป็นการไล่ความร้อนที่อยู่ภายในรถของเราให้ระบายออก จากนั้นจึงค่อยเริ่มเปิดสวิตช์ A/C และปรับระดับได้ตามต้องการ 2.ก่อนที่เราจะทำการ สตาร์ทเครื่องในทุกครั้งต้องปิดสวิตช์ A/C ก่อนเสมอ เพื่อที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์คอมเพรสเซอร์ฉุด ในขณะที่เราทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งถัดไป 3.ทำการไล่ความร้อนที่อยู่ในรถออกก่อนทุกครั้ง หากเราจอดรถในที่ตากแดดนานๆ ควรทำการเปิดลมเป่าในระดับที่แรงสุด อย่าเพิ่งเปิดสวิตช์ A/C ให้เปิดประมาณ 2-3 นาที จะเป็นการช่วยไล่ความร้อนและความอบที่อยู่ในระบบแอร์ จากนั้นจึงค่อยๆเปิดสวิตช์ และเปิดแอร์ได้ตามปกติ จะเป็นการช่วยไล่กลิ่นอับที่มีในรถได้ด้วย 4.พยายามในเวลาที่เราขับรถอย่าเปิดกระจกบ่อยครั้ง เพราะการเปิดกระจกไม่เพียงแต่จะพาความร้อนจากภายนอกเข้ามาในตัวรถของเรา แต่ยังจะนำพาเราออกจากภายนอกเข้ามาอุดตันในระบบแอร์รถยนต์ รวมถึงเบาะรถยนต์ของเราด้วย 5.หากเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าแอร์ไม่มีความเย็น ให้เรารีบปิดน้ำยาแอร์ หรือทำการปิดสวิตช์ A/C แต่เรายังใช้ลมแอร์ได้ตามปกติ การทำแบบนี้จะช่วยทำให้คอมเพรสเซอร์ลดการเสียหาย จากนั้นให้เรานำรถไปตรวจเช็คความผิดปกติในขั้นตอนถัดไป …

ในวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นบริเวณข้างมือของคุณ ให้คุณพลิกฝ่ามือขึ้นมาดู แล้วมองดูว่าด้านข้างนั้นมีกี่เส้น โดนคนปกติทั่วไปแล้วจะมีหนึ่งถึง 1-6 เส้น ซึ่งแต่ละเส้นนั้นบ่งบอกถึงลักษณะในการใช้ชีวิต บอกนิสัยและทำนายในเรื่องของอนาคตได้ ดูข้างมือมี 1 เส้น , 5 เส้น คนที่มีเส้นด้านข้างฝ่ามือ 1 เส้น มักจะเป็นคนที่มีความฉลาดรอบรู้อยู่ในตัว เป็นคนดีมีน้ำใจ มีจิตใจดีอบอ้อมอารี เป็นคนที่มีความมั่นคงในเรื่องของการกระทำและคำพูด ชีวิตของคุณในช่วงแรกๆและช่วงกลางกลางอาจจะลำบากมากกว่าคนปกติ แต่ชีวิตของคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางคน เมื่อก้าวเข้าสู่วัยประมาณ 35 ปีขึ้นไป จะเจอเรื่องราวที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่ความเหนื่อยนี้จะนำพามาซึ่งความสุขและความเจริญในชีวิต ลักษณะของคนที่มี 1 เส้น เรียกได้ว่าเป็นคนที่ไม่ยอมคน รักเดียวใจเดียว เงินไม่สามารถซื้อคุณได้ และแน่นอนว่าคุณเป็นคนที่จริงจังกับการใช้ชีวิต มักจะประสบความสำเร็จได้ด้วยการลงมือทำด้วยตัวของคนเอง ถ้าทำไม่หยุดต้องบอกเลยว่าอนาคตจะต้องราบรื่นและมีความมั่นคงอย่างแน่นอน อาชีพที่เหมาะสมของคุณนั้นจะเป็นในเรื่องของการบริการและการค้าขาย จะประสบความสำเร็จมากเป็นพิเศษ ถ้าเส้นของคุณตรง ให้เก็บไว้ด้วยนะคะ แล้วโชคดีรอบนี้จะเข้ามา สาธุ ดูข้างมือมี 2 เส้น คนที่มีเส้นด้านข้างฝ่ามือ 2 เส้น เรียกได้ว่าคุณมักจะเป็นคนที่มีความรักที่ดีเสมอ …

จงแก่อย่างมีคุณค่า จงชราอย่างมีคุณภาพ อยู่ไปนานๆ ให้ลูกหลานเคารพรัก มิใช่อยู่ให้ลูกหลานรังเกียจ จนต้องหนีหาย อย่าแก่เพียงเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน เมื่ออายุมากขึ้นจงมีความสุขมากขึ้นตามอายุ – เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางมือ คุณไม่มีทางทำงานไปได้ตลอดชีวิต หรือ คิด ดูแลลูกหลานไปจนวันสุดท้ายของพวกเขาได้ ดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกหลานมีบุญวาสนาและทางเดินของลูกหลาน หากคิดแทนทำแทนไปเสียหมด คุณเหนื่อยตลอดชาติ วันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง? การรู้จักวางมือคือการฝึกเชื่อใจในลูกหลาน และเป็นการส่งเสริมลูกหลานไปในตัว อย่าให้เขาด่าว่าเก่งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่ลูกหลานไม่เอาไหน เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักปล่อยวาง ต้องรู้จักปล่อยวางเรื่องราวบางอย่าง ที่ควรวางต้องรู้จักปล่อย เพราะใจของคนเราแบกรับได้จำกัด อย่าเอาแต่คับแค้นฝังใจ ปล่อยวางตำแหน่งฐานะที่เคยดำรง ปล่อยวางชื่อเสียงสักการะที่เคยครอบครอง ปล่อยวางอดีต เรียนรู้ในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นสุขได้ในวัยชรา – เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักตัดใจ บางสิ่ง บางอย่าง เมื่อสูญเสียไปแล้วก็อย่าได้ยึดผูก คิดให้ได้ว่าเดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นของคุณ และ วันสุดท้ายในชีวิตคุณก็เอาอะไรไปไม่ได้ ดังนั้น ตัดใจได้ในสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว จึงสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ควรมีอยู่ไว้ได้ เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางอารมณ์ สังคมในอดีตมีความย ากของคนในอดีต สังคมในปัจจุบันมีความย ากของคนในปัจจุบัน …