ลุงเก็บของเก่าร่ำไห้ โดนขโมยรถพ่วงข้าง เครื่องมือทำมาหากินส่งหลานเรียน

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.30 น. ขณะที่ร.ต.ท.เผ่าแสง กงพลี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายสุทัศน์ ประดิษฐ์ปัญญา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่46 หมู่8 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่าโดนโจรลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเทน่าสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ต่อพ่วงข้างสำหรับเก็บของเก่า ขณะจอดไว้บริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมถนนเลี่ยงเมืองก่อนถึงบขส.แห่งที่2 อุดรธานี เทศบาลหนองสำโรง เมื่อคืนวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยนายสุทัศน์ ผู้เสียหายได้ปั่นจักรยานของคนร้ายมาแจ้งความด้วยความคับแค้นใจ

นายสุทัศน์ ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขายโดยมีรถจักรยายนต์พ่วงข้างเป็นยานพาหนะ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนทะเลาะมีปากเสียงกับลูก จึงขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกมาจากบ้านมานอนที่ศาลาพักผู้โดยสารริมทางก่อนถึงบขส.แห่งที่2 ขณะนั่งดื่มเหล้าอยู่ในศาลาก็ได้มีชายปั่นจักรยานมาขอนั่งดื่มและพูดคุยกัน

จนกระทั่งตนมีอาการมึนเมาและเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็พบว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างของตนหายไปตนก็ไม่รู้ว่าใครมาขโมยรถตนไป ทิ้งจักรยานไว้ให้ดูต่างหน้าก่อนปั่นจักรยานของโจรมาแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้ายและนำรถคืนมาให้ด้วย

รถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันนี้สำคัญมาก เพราะขับไปเก็บของเก่าไปขายได้เงินมาวันละ 100-300 บาท ซึ่งเงินที่ได้ก็เอามาใช้จ่ายประจำวัน ไม่มีรถคันนี้แล้วก็ไม่รู้จะไปทำอะไรเพราะไม่มีเครื่องมือทำมาหากิน ซึ่งรถคันนี้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายคิดไม่ออกจะทำยังไง ตอนนี้ไม่มีเงินที่จะซื้อรถคันใหม่อีกแล้วเพราะอายุมากแล้วใครจะมาจ้างทำงาน และยังต้องเลี้ยงดูแลหลานอายุ 6 ขวบด้วย หากคนที่มานั่งกินเหล้าด้วยเมื่อคืนลักรถตนไปถือว่าเลวมาก เพราะซื้อเหล้าเลี้ยงแต่ยังมาลักรถตนอีก ขอให้เอารถมาคืน นายสุทัศน์ เล่าทั้งน้ำตา

ตำรวจจึงนำนายสุทัศน์ไปพบตำรวจสืบสวนเพื่อให้ข้อมูลและบอกรูปพรรณคนร้าย และเพื่อจะได้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางทองป่น เพ็งสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ภรรยานายสุทัศน์ เล่าว่าครอบครัวมีฐานะยากจน ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนนายสุทัศน์ทำงานก่อสร้าง เมื่อ 3 ปี ก่อนนายสุทัศน์ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม จึงหันมาขับรถจักรยานยนต์ตระเวนไปเก็บของเก่าขายเพื่อจุนเจือครอบครัว

สามีได้เก็บรวบรวมเงินสวัสดิการแห่งรัฐหรือเงินคนจนที่รัฐบาลช่วยเหลือไปซื้อจักรยานยนต์เก่าจากร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในราคา 2,500 บาท นำมาต่อพ่วงข้างเพื่อขับไปเก็บของเก่านำไปขายได้ 100-300 บาท เพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว และให้เงินหลานชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ม.1 ไปโรงเรียน ส่วนบ้านตนเอาไปจำนองกับนายทุน 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 บาท เพื่อนำมาให้หลานเรียนหนังสือ โดยตนส่งดอกเดือนละ 900 บาท ต่อมานายทุนสงสารจึงลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 3 บาทไม่มีกำหนด

นางทองปุ่นเล่าต่อไปว่า เมื่อคืนนายสุทัศน์ดื่มเหล้า ตนจึงบ่นเพระว่าห่วงไม่อยากให้ดื่มเหล้ามาก แต่นายสุทัศน์โกรธได้ขี่รถจักรยานพ่วงข้างออกจากบ้านไปกระทั่งเช้าก็ยังไม่กลับมาแต่นายสุทัศน์โทรศัพท์กลับมาบอกว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างหายจะไปแจ้งตำรวจและออกตามหาให้ได้ เพราะเป็นรถที่ใช้ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว ตนก็บอกว่าไม่ต้องไปตามหาให้กลับมาบ้านเพราะเป็นห่วงเกรงจะได้รับอันตราย หายแล้วก็เก็บเงินซื้อใหม่และไปตามหารถก็โทรศัพท์หายอีกจึงติดต่อไม่ได้ ถ้ายังไม่กลับมาบ้านตนกับลูกก็จะออกตามหานายสุทัศน์

ส่วนนางนา จันดาด อายุ 70 ปี แม่ยายนายสุทัศน์ เปิดเผยว่า ลูกเขยเป็นคนนิสัยดี ขยันทำมาหากินทั้งวันทั้งคืนเพื่อหาเงินส่งหลานเรียน มีรายได้วันละ 200-300 บาท จึงไม่ค่อยพบนายสุทัศน์เพราะจะออกไปเก็บของเก่าทั้งคืน แต่เป็นคนชอบดื่มเหล้า วันนี้ดูข่าวเห็นลูกเขยไปแจ้งตำรวจว่ารถหายและร้องไห้ก็รู้สึกสงสารมาก และออกตามหารถยังไม่กลับบ้าน จึงอยากบอกลูกเขยว่าให้กลับมาบ้าน รถหายแล้วก็เก็บเงินซื้อใหม่

ส่วนบริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมถนนเลี่ยงเมืองตรงข้ามบขส.แห่งที่2 อ.เมือง จ.อุดรธานี ไม่พบนายสุทัศน์ พบรถจักรยานปั่นสีดำของคนร้ายจอดทิ้งไว้ในศาลาพักผู้โดยสารและยังพบมุ้งหมอนหมวกและห่อข้าว คาดว่าจะเป็นของนายสุทัศน์ จะจอดรจักรยานไว้เผื่อคนร้ายเปลี่ยนใจนำรถจยย.พ่วงข้างมาคืน

ที่มา:siamnews.com

About clickdoo24

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *