การสวดมนต์ ที่ถูกต้อง ได้รับผลอานิสงส์ในทันทีที่ท่านสวดเสร็จ

การสวดมนต์ที่ถูกต้องจะส่งผลที่ดี ผลอานิสงส์ที่ตัวเราจะได้รับในทันที เมื่อท่านได้สวดเสร็จเสร็จ บทสวดมนต์นั้นได้มีบทสวดมนต์อยู่หลายบท เวลาเราไปวัดไปไหว้พระขอพรหรือตอนเช้าตื่นนอนก่อนนอน หลายๆท่านมักจะมีการสวดมนต์กันอยู่เป็นประจำและบทสวดมนต์นั้นก็จะมีทั้งบทสวดแบบสั้นและบทสวดแบบยาว ให้ได้สวด ความหมายของบทสวดมนต์ใน ทุกๆบทสวดนั้นก็ได้มีความหมายที่ดี ในการสวดมนต์นั้นไม่มีบทสวดมนต์ใดที่จะสามารถข จัดในเรื่องของความทุกข์ไปได้ คนเข้าใจผิดในเรื่องนี้อย่างมาก ทุกเรื่องที่มีอยู่ในใจเราสามารถดับได้ด้วยตัวเอง ยอมรับความจริง ใจของเราก็จะเบาลง ในการสวดมนต์อย่างแรกเลย จะต้องสมาทานศีล 5 ในทุกวันเวลาไหนก็ได้ เพราะสิ่งที่จะครอบคลุมให้เป็นเกาะตัวเราตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงศีลขาดไป 1 ข้อ แต่ก็ยังมี 4 ข้อที่จะคอยค้ำจุนให้เรามีศีลอยู่

หลักการสวดมนต์ จะต้องสมาทานศีล 5 ก่อน บทสวดมนต์ใดในโลก เพราะในการสมาทานศีล 5 จะเป็นการกรองเสียงให้เป็นทิพย์ก่อน แล้วจึงค่อยสวดมนต์บทสวดได้หมดทุกบท จะต้องมีการสวดมนต์ด้วยความตั้งใจ เสียงดังฟังชัด แต่ไม่ใช่การตะโกนออกมา จะต้องให้มีความมั่นใจว่ามีเสียงที่เปล่งขึ้นมา ในทุกคำพูดที่ได้กล่าวออกมานั้นเกิดจากความศรัทธา กราบไหว้พระก็ต้องกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ให้สวยงาม นิ้วโป้งแตะระหว่างคิ้ว พอก้มแล้วหน้าผากให้แตะถึงพื้น

การสวดมนต์ก่อนนอนที่ถูกต้อง เรียงลำดับบทสวด ดังนี้ค่ะ

(เราจะลงคำเริ่มต้นของบทสวดของแต่ละบท ให้นะคะ) เริ่มจาก

คำบูชาพระ

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ (สวดคนเดียวลงด้วย “มิ” แต่สวดหลายคนเปลี่ยนเป็น “มะ”) ฯลฯ

คำนมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ ฯลฯ

คำอาราธนาศีล5

อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ (ถ้าสวดหลายคนเปลี่ยนจาก อะหัง เป็น มะยัง) ฯลฯ

คำนมัสการพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) ฯลฯ

ไตรสรณคมณ์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯลฯ

ศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯลฯ

คำขอขมาพระรัตนตรัย

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง ฯลฯ

คำแผ่เมตตา ให้แก่ตนเอง (การที่เราจะแผ่เมตตาให้ใคร ให้จดจำเสมอว่า เราต้องให้เราก่อน เมื่อเรามีบุญเราจึงให้คนอื่นได้ค่ะ)

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงป ราศ จากทุกข์ ฯลฯ

คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น (พอขึ้นสัพเพ สัตตา วิญญาณของสัตว์ที่เรากินไปในแต่ละวันก็จะไปเกิดในทันที ไม่เกาะตามเนื้อตัวเราแล้วค่ะ)

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ฯลฯ

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (สวด 3 จบ บทนี้ขอให้ปัญญาทางธรรมจง เกิดกับเราขาดไม่ได้เช่นกันค่ะ)

หากท่านอยากสวดมนต์บทใดๆ นอกเหนือจากนี้ ให้สวดแทรกไปก่อนที่จะ “แผ่เมตตาให้ตัวเอง” จากนั้นหากใครประสงค์จะนั่งสมาธิ ก็ให้ ขอพระกรรมฐานก่อนทุกครั้ง แล้ว นั่งสมาธิเป็นเวลาสั้นๆ

(การเริ่มต้นฝึกการนั่งสมาธิ อย่านั่งนานเพราะระยะเวลาไม่ช่วยให้ท่านได้บุญมาก เท่ากับการนั่งแล้วกำหนดสติของเราได้ตลอดต่อเนื่อง อยู่กับลมหายใจ)

ตั้งใจในการสวดมนต์ทุกๆบทไม่เพียงแต่ส่วนไปอย่างนั้น เราจะต้องใจกล่าวในทุกคำพูด มีจิตใจที่สงบจิตใจไม่วอกแวก สวดมนต์เสร็จแล้วนั่งสมาธิต่อ สัก 5-10 นาที เป็นเวลาสั้นๆจะทำให้จิตใจของเรานั้นเกิดเป็นความสุข ความสงบ มีสิ่งที่ดี เกิดขึ้นมาในชีวิต

ขอขอบคุณ:ลั่นทม ห่มนครคีรี

About clickdoo24

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *