อดีตนักวิจัย” เมินขายที่ 50 ไร่ 1,500 ล้าน ทำตามฝัน เอาไว้ทํานากลางกรุง

เปิดใจอดีตนักวิจัยผันตัวเป็นเกษตรกรโดยใช้ที่ดินกลางกรุงเทพฯ กว่า 50 ไร่ ทำการเกษตร แม้จะมีนายทุนมาขอซื้อไร่ละ 30 ล้านบาท ก็ยังไม่ขาย โดยสื่อต่างประเทศเสนอข่าวจนเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์

โดยนายสมโภชน์ทับเจริญ อายุ 60 ปี เจ้าของฟาร์ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานเป็นนักวิชาการเกษตร แต่ตนและภรรยายอมทิ้งรายได้รวมปีละ 1 ล้านบาท จากเงินเดือนประจำ และลาออกจากราชการ ในช่วงปี 2557

เพื่อมาเปิดฟาร์มกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดมา 4 ปีแล้ว บนที่ดินมรดกจากคุณพ่อ ซึ่งแรงบันดาลใจเกิดจากที่ตอนเด็กๆ ตนโตมากับการทำเกษตร จึงมีความใฝ่ฝันที่อยากจะกลับมาทำเกษตรอีกครั้ง โดยใช้ความรู้ที่เคยทำงานวิจัย สมัยเป็นนักวิชาการ มาประกอบในการทำสวนแบบผสม

โดยปลูกพืชหลายชนิดอยู่ภายในสวนเดียวกัน เช่น ปลูกข้าว ถั่ว มะม่วง รวมถึงขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำเกษตรแบบหมุนเวียน และการนำพระราชดำรัส เรื่องเกษตรพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ และปลูกพืชขายเป็นอาชีพหลัก รวมถึงเปิดร้านอาหาร

โดยใช้ผลผลิตจากฟาร์ม มุ่งเน้นใช้ผักที่ปลอดสารพิษในร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัย ซึ่งพื้นที่การเกษตรของตนมีความกว้างกว่า 50 ไร่ โดยในอนาคตตนอยากเปิดฟาร์มให้เป็นฟาร์มสเตย์ ให้คนมาพักผ่อนได้ และมาดื่มด่ำบรรยากาศแบบบ้านนอก แต่ตั้งอยู่กลางกรุง โดยใช้เวลาเดินทางมาได้ไม่นาน

นายสมโภชน์ เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ มีนายทุนมาขอซื้อที่ดินเพื่อสร้างคอนโดมิเนียม โดยเสนอราคาไร่ละ 30 ล้านบาท ซึ่งรวมมูลค่าที่ดินทั้งหมด ก็สามารถขายได้ 1,500 ล้านบาท แต่ตนก็ได้ปฏิเสธไป เพราะตนคิดว่า แม้จะมีเงินเยอะแยะมากมาย แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะสามารถมีความสุขบนกองเงินกองทองนั้นได้อย่างไร เพราะตนก็มีความสุขกับการทำไร่ทำสวน ได้ออกแรง และลงมือทำ

เพื่อให้คนอื่นได้มาตักตวงความสุขจากสิ่งที่ตนทำ โดยที่ดินของตนนั้นจะมีมูลค่ามากขึ้น และราคาสูงขึ้นทุกวัน โดยในระหว่างนี้ ตนอยากใช้ที่ดินผืนนี้เพื่อตักตวงความสุขจากการทำเกษตร ส่วนใครจะคิดว่าถ้ามีเงินแล้วจะมีความสุข มันก็เรื่องของเขา เพราะความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ขอบคุณข้อมูล ขอบคุณรูปภาพ:amarintv.com